การประหยัดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมหาศาลด้วยการผลิตคลอรีนในสระว่ายน้ำ

มอบประสบการณ์การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำระดับโลกให้กับผู้คนในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์

เมืองไครสต์เชิร์ชมีประชากรมากกว่า 396,000 คน สภาเมืองไครสต์เชิร์ชได้จัดให้มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่งภายในชุมชนเพื่อให้ผู้คนเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำฤดูร้อนอีก 4 แห่งอีกด้วย

หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2554 เมืองไครสต์เชิร์ชจึงได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยคาดว่าความจุของสระว่ายน้ำในเมืองไครสต์เชิร์ชลดลงถึง 60% ซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว การสร้างเมืองขึ้นใหม่เป็นอีกหนึ่งโอกาส สภาเมืองไครสต์เชิร์ชแสดงความกระตือรือร้นที่จะปรับใช้และเพิ่มประสิทธิภาพประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่สำหรับโครงการพัฒนาสระว่ายน้ำ Taiora QEII แห่งนี้

การติดตั้งเครื่องผลิตคลอรีนในสระว่ายน้ำเป็นการตัดสินใจที่เฉียบแหลมของสภา ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ สามารถควบคุมการจ่ายคลอรีนได้เต็มรูปแบบ รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (OpEx) ในระยะยาว

ควบคุมการจ่ายคลอรีนอย่างเต็มรูปแบบด้วยการผลิตคลอรีนในสระว่ายน้ำ

ก่อนหน้านี้ ส่วนสำคัญของกระบวนการบำบัดน้ำด้วยวิธีการดั้งเดิมของศูนย์นันทนาการและกีฬา Taiora QEII ได้แก่ การจัดซื้อสารเคมีคลอรีนเหลวอันตรายซึ่งจะต้องขนส่งไปยังพื้นที่จัดเก็บโดยบริษัทจำหน่ายสารเคมี จากนั้นจึงจัดการต่อโดยผู้รับผิดชอบประจำ ซึ่งเป็นวิธีการใช้คลอรีนแบบดั้งเดิมที่ทำให้เกิดข้อกังวลด้านสุขภาพและความปลอดภัย

เนื่องจากคลอรีนเหลวมีลักษณะอันตราย สารเคมีจึงจำเป็นต้องได้รับการจัดการ HSNO และต้องใช้ถังเก็บสารเคมีชนิดพิเศษ ซึ่งทำให้ต้องมีการรับรองเพิ่มเติมและกลายเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับสถานที่

เมื่อสระว่ายน้ำทั้งหมดภายในเมืองครบกำหนดรอบการฆ่าเชื้อ ค่าใช้จ่ายสารเคมีจำพวกคลอรีนจึงมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากงบประมาณสระว่ายน้ำของสภา สภาได้พิจารณาถึงข้อดีหลายประการของการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้นวัตกรรมการผลิตคลอรีนในสระว่ายน้ำ

ติดตั้งระบบอิเล็กโทรไลเซอร์ CHLORINSITU III แบบคู่จาก ProMinent ด้วยการคัดเลือกเครื่องมือสัญชาติเยอรมนีที่ชาญฉลาด เครื่องผลิตคลอรีนชนิดอิเล็กโทรไลเซอร์เหล่านี้ใช้เพียงเกลือและน้ำในการผลิตคลอรีนปริมาณมากสำหรับสระว่ายน้ำได้โดยตรง

ความเข้มข้นของคลอรีนที่สูงขึ้น และต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง

ด้วยระบบอิเล็กโทรไลเซอร์ CHLORINSITU III ของ ProMinent ระดับความเข้มข้นของคลอรีนจะอยู่ที่ประมาณ 25 กรัม/ลิตร โดยมีการใช้โซเดียมคลอไรด์ในปริมาณขั้นต่ำ (ผลผลิต 85%) จากเยื่อเมมเบรนเข้าสู่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ทั้งนี้สามารถตรวจวัดสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ความเข้มข้นสุดท้ายได้ตามต้องการ โดยใช้ปั๊มวัดแยกกัน

ด้วยช่วงค่า pH ที่เหมาะสมระหว่าง 9.5 – 10 พบว่าค่า pH ของน้ำที่ผ่านการบำบัดได้รับผลกระทบน้อยกว่าวิธีการเติมโซเดียมไฮโปคลอไรต์ทั่วไป (pH 12 – 13.5) อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายความว่าเราจำเป็นต้องใช้กรดในปริมาณที่ลดลง

คุณเกรก ฟินช์ หัวหน้าฝ่ายสิ่งอำนวยความสะดวกของสภาเมืองไครสต์เชิร์ชกล่าวว่า “เราสามารถประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาล! ที่ผ่านมา เรามีต้นทุนคิดเป็นเกือบสองเท่าสำหรับคลอรีนความเข้มข้น 0.8% เมื่อเทียบกับต้นทุนในปัจจุบันที่ทำให้ได้คลอรีนความเข้มข้นสูงถึง 2.5% นั่นหมายความว่าเราจ่ายเงินแพงขึ้นสองเท่าสำหรับคลอรีนที่ความเข้มข้นต่ำกว่า นับตั้งแต่ที่เราเปลี่ยนมาใช้การผลิตในพื้นที่โดยใช้เครื่องอิเล็กโทรไลเซอร์จาก ProMinent ต้นทุนคลอรีนต่อลิตรก็ลดลงมากกว่า 78% . ถือเป็นการลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมาก”

คุณเกรกกล่าวเสริมว่า “ค่าใช้จ่ายในการลงทุนกับสินค้าถาวร (CapEx) ภายในหน่วยงานประเภทนี้อาจสูงขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (OpEx) ลดลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการประหยัดต้นทุนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว”

• การติดตั้งระบบอิเล็กโทรไลเซอร์ CHLORINSITU III แบบคู่จาก ProMinent
• การลดต้นทุนคลอรีนต่อลิตรได้มากกว่า 70%
• ไม่จำเป็นต้องจัดซื้อคลอรีนอีกต่อไปและหลีกเลี่ยงการได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
• รูปแบบเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายทำให้การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานใหม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย